สรวงศ์ ตำหนิการโร้ดโชว์มวยไทยต่างประเทศไม่เกิดประโยชน์ สั่งยุบอนุกรรมการ

Home » สรวงศ์ ตำหนิการโร้ดโชว์มวยไทยต่างประเทศไม่เกิดประโยชน์ สั่งยุบอนุกรรมการ

สรวงศ์ เทียนทอง รมต.กีฬา ตำหนิการโร้ดโชว์มวยไทยต่างประเทศของกกท. ไม่เกิดประโยชน์ ประหลาดใจตั้งอนุกรรมการมวยไทย 14 อนุ สั่งยุบแล้วอื้อซ่า

สรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ให้สัมภาษณ์พิเศษกับผู้สื่อข่าวมติชน-ข่าวสด เกี่ยวกับเรื่องของกีฬามวยไทยในประเด็นที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ขับเคลื่อนการสนับสนุนกีฬามวยไทยไม่ถูกกระบวนการตามหลักสากลที่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ให้การรับรองสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ถูกต้องเพียงองค์กรเดียว

ซึ่งที่ผ่านมากกท. เลือกจับมือกับองค์กรกีฬามวยไทยที่ไม่ได้รับการรับรองอย่างถูกต้องพร้อมกับขับเคลื่อนกีฬามวยไทยทั้งในและต่างประเทศ จนทำให้เกิดความสับสน โดยรมต.กีฬา เผยว่า เรื่องมวยไทยต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าถูกให้ความสำคัญมาก พอถูกให้ความสำคัญมากงบประมาณยิ่งเยอะตามไปด้วย โดยส่วนตัวเห็นว่าบางสิ่งบางอย่างตัดได้ อย่างเช่นการไปโร้ดโชว์มวยไทย ตนมองว่าไร้สาระ ไม่เกิดประโยชน์

เพราะถ้าพูดถึงไทยแลนด์คนรู้อยู่แล้วว่ามวยไทย แล้วกีฬามวยไทยที่จะไปโอลิมปิกเกมส์ ลองสังเกตดูกีฬาที่มีชื่อประเทศอยู่ หรือว่าเป็นกีฬาประจำชาติ ไม่มีกีฬาไหนได้เข้าไปแข่งในโอลิมปิกเกมส์สักชนิดเดียว อย่างเช่น เทควันโดไม่ใช่ชื่อเกาหลีใต้ คาราเต้ไม่มีชื่ออะไรที่เป็นญี่ปุ่น แต่ชื่อของกีฬามวยไทย ชัดเจนมากว่าเป็นศิลปวัฒนธรรมของประเทศไทย

นายสรวงศ์ กล่าวอีกว่า ในรมต.กีฬา ตนมองแบบนี้ว่ามวยไทยเป็นทั้งกีฬา และเป็นทั้งศิลปะ ถึงบอกว่ามาดูกันใหม่ดีกว่า เพราะปัจจุบันองค์กรกีฬามวยไททับซ้อนกันเยอะมาก พอตนเข้ามาทำหน้าที่ได้เข้าไปดูเรื่องของอนุกรรมการเกี่ยวกับเรื่องของกีฬามวยไทย ตนรู้สึกตกใจเลยมีทั้งสิ้น 14 อนุกรรมการ ถามว่าคุณทำงานกันยังไงมีทั้งหมด 14 อนุกรรมการ มันไม่สมดุล ฉะนั้นตนได้ยุบเหลือ 4 หรือ 5 อนุกรรมการพอ

เรื่องแบบนี้จะต้องไม่ใช่ตำแหน่งต่างตอบแทนกันอีกต่อไปแล้ว ทุกอย่างต้องสมเหตุสมผล ไม่ว่าในเรื่องของตัวสมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ ซึ่งถูกต้อง ไม่ว่าจะ IFMA ต้องเข้ามาร่วมมือกัน เรียนตรงๆ ว่า จากการมีหลายองค์กรเกี่ยวกับมวยไทย ตนสับสนว่า อันไหนรับผิดชอบเรื่องไหนกันแน่ ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าปรับโครงสร้างเรื่องของคนที่มาดูแลแล้วมันสมดุลจริงๆ ตนมองว่า เป็นเรื่องที่ไปด้วยกันได้

“การที่จะส่งเสริมมวยไทยให้ไปเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทย จริงๆ แล้วผมมองว่างบประมาณซอฟต์พาเวอร์มวยไทยไปส่งเสริมนักกีฬาให้มีประสิทธิภาพดีกว่าเยอะ ถูกกว่าเยอะด้วย แล้วให้ตัวนักกีฬานี่แหละเป็นซอฟต์พาวเวอร์ในการที่จะออกไปแข่งขัน ออกไปโชว์ เพราะผมมองว่า ทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องของแค่ว่าคุณจะเรียนมวยไทยเพื่อจะไปขึ้นเวที ไปต่อยอย่างเดียว เรียนเพื่อไปออกกำลังกายก็ได้ เรียนเพื่อไปเป็นครูฝึกก็ได้ แม้กระทั่งกรรมการ”

“ทุกวันนี้ที่มวยสากลถูกถอดออกจากโอลิมปิกเพราะมีปัญหาเรื่องของการตัดสิน ซึ่งไม่มีอะไรที่เป็นบรรทัดฐาน ในเรื่องมวยต้องยอมรับว่าเป็นเอกลักษณ์ของไทย ผมจะพยายามทำให้มันสะอาดที่สุด และถูกต้องที่สุด ให้มวยไทย นักมวย ค่ายมวยไทย มีที่ยืน และสามารถสร้างอาชีพได้ จะเห็นว่านักมวยเก่าๆ พอต่อยไม่ได้จะไปเปิดค่ายมวยและล้มเหลวเพราะบริหารไม่เป็น ไม่ใช่ว่าสอนมวยไม่เป็นนะ แต่บริหารไม่เป็น ขอยืนยันว่า เรื่องมวยไทยจะพยายามทำให้ดีที่สุด และถูกต้องตามหลักการที่สุด” รมต.กีฬากล่าวทิ้งท้าย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *